ไทยเตรียมส่ง “อุรังอุตัง” 14 ตัวคืนอินโดฯ หลังพบถูกสวนสัตว์ทิ้งข้างถนน

Spread Widely / ข่าวอัพเดทปากต่อปาก @ 26 สิงหาคม 2558 เวลา 14:54 น. | อ่านแล้ว 984 ครั้ง
ไทยเตรียมส่ง “อุรังอุตัง” 14 ตัวคืนอินโดฯ หลังพบถูกสวนสัตว์ทิ้งข้างถนน
เมื่อวันที่ 25 ส.ค. นายอดิศร นุชดำรงค์ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า จากกรณีที่เมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา กรมอุทยานฯได้รับโทรศัพท์จากพลเมืองดีว่า เจอกรงลิงอุรังอุตังตัวเต็มวัยจำนวน 13 ตัวใส่กรงถูกนำมาปล่อยทิ้งไว้ริมถนนทางหลวง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่กรมอุทยานเข้าไปตรวจสอบพบว่า เป็นการลักลอบนำเข้ามาโดยสวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่ง และนำลิงอุรังอุตังทั้งหมดไปเลี้ยงไว้ที่สถานีเพาะพันธุ์สัตว์ป่า เขาประทับช้าง จ.ราชบุรี หลังจากนั้นได้สืบพิสูจน์ และตรวจดีเอ็นเอ็นลิงทั้งหมดชัดเจนแล้วว่า เป็นลิงอุรังอุตังจากประเทศอินโดนีเซีย รวมทั้งรัฐบาลอินโดนีเซียก็ยอมรับว่าเป็นลิงจากอินโดนีเซีย แต่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอินโดนีเซียไม่ประสงค์จะรับลิงกลับ กรมอุทยานฯจึงต้องเลี้ยงเอาไว้

นายอดิศร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันเวลาผ่านไปประมาณ 5 ปี รัฐบาลอินโดนีเซียทำหนังสือมายังกรมอุทยานฯแจ้งความประสงค์ว่า จะขอรับลิงทั้งหมดกลับประเทศ ซึ่งตามกฎของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าพืชและสัตว์ซึ่งชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ (ไซเตส) ลิงอุรังอุตัวเป็นสัตว์ในบัญชี 1 ประเทศที่รับเลี้ยงสัตว์เหล่านี้เอาไว้ สามารถเรียกรับค่าใช้จ่ายจากประเทศต้นทางได้ ซึ่งกรมอุทยานฯแจ้งไปว่า ค่าดูแลลิงอุรังอุตัง จำนวน 13 ตัวตลอด 5 ปีที่ผ่านมานั้น ซึ่งลิงได้ผสมพันธุ์กัน มีลูกออกมาใหม่ 2 ตัว แต่ตายไป 1 ตัว เหลือ 14 ตัว คิดเป็นเงินทั้งหมด 3 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าจัดทำกรง ซึ่งต้องเป็นกรงชนิดพิเศษสำหรับขนส่งลิงข้ามประเทศ และค่าขนส่ง รวมทั้งค่าตรวจสุขภาพ และการออกหนังสือรับรองจากสัตวแพทย์ภาคภาษาอังกฤษ เพื่อรับรองว่า สัตว์ไม่ป่วย และไม่มีเชื้อโรค ตามกฎของไซเตส ซึ่งทางรัฐบาลอินโดนีเซียขอให้เรายกเว้นค่าเลี้ยงดู 3 ล้านบาท เพราะไม่มีงบประมาณ จึงได้นำเรื่องนี้หารือ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ทรัพยากรฯ ในขณะนั้น กับนายนิพนธ์ โชติบาล อธิบดีกรมอุทยานฯ ทั้งสองเห็นตรงกันว่า ยกเว้นค่าเลี้ยงดู 3 ล้านบาทให้ได้ รัฐบาลอินโดนีเซียจึงแจ้งว่า จะส่งเครื่องบิน ซี 130 มารับลิงทั้งหมดในวันที่ 7 ก.ย. นี้

นายอดิศร กล่าวว่า เกี่ยวกับเรื่องสัตว์ของกลางโดยเฉพาะสัตว์จากต่างประเทศ เวลานี้เป็นภาระกับกรมอุทยานฯ อย่างยิ่ง เพราะประเทศไทยเป็น ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะมีการลักลอบขนส่งสัตว์ป่าส่งไปยังประเทศปลายทาง เนื่องจากเวลานี้ติดขัดในเรื่องกฎหมายหลายฉบับ เช่น เมื่อจับได้ต้องมีการพิสูจน์ชัด ทั้งการตรวจดีเอ็นเอว่าสัตว์ป่าเหล่านั้นมีถิ่นกำเนิดมาจากไหน โดยให้ประเทศต้นทางยอมรับอย่างเป็นทางการและให้ประเทศเหล่านั้นยอมรับสัตว์คืนซึ่งต้องใช้ระยะเวลานานมาก เป็นภาระในการเลี้ยงดูอย่างมาก

ไม่เฉพาะลิงอุรังอุตังจำนวน 14 ตัว แต่เวลานี้ยังมีเต่ามาดากัสการ์ อีกจำนวน 456 ตัว ในจำนวนนี้เป็นพันธุ์ยูนิฟรอล่า อยู่ในบัญชี 1 ไซเตส ซึ่งหายากมากในประเทศมาดากัสการ์เหลืออยู่เพียง 400 กว่าตัวเท่านั้น ในตลาดมืดซื้อขายกันตัวละ 3-5 แสนบาท กรมอุทยานฯ เก็บรักษาอยู่จำนวน 8 ตัว เต่าลายรัศมี ตัวละ 2-3 หมื่นบาท จำนวน 28 ตัว ที่เหลือเป็นเต่าราคาหลักพันบาท โดยก่อนหน้านี้เต่าของกลางมีจำนวนมากกว่านี้แต่ตายไปส่วนหนึ่ง เพราะสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมรวมทั้งคนเลี้ยงเลี้ยงแบบลองผิดลองถูก เช่น เอาผักบุ้งให้กิน โดยทราบภายหลังว่าเต่าพวกนี้เป็นเต่าบกและกินเนื้อเป็นอาหาร

รองอธิบดีฯ กล่าวอีกว่า นอกจากสัตว์ป่าจากต่างประเทศแล้ว สัตว์ป่าของกลางที่กรมอุทยานฯ ต้องรับผิดชอบยังมีเสือทั้งเสือโคร่งจำนวน 51 ตัว เสือดาว จำนวน 7 ตัว หมีหมา จำวน 41 ตัว หมีควาย 151 ตัว โดยเสือโคร่งมีค่าอาหารวันละ 230 บาทต่อตัว/วัน หรือทั้งหมดคิดเป็น 4.2 ล้านบาท/ปี ยังไม่รวมค่าดูแลสุขภาพอื่นๆ เช่น ฉีดวัคซีน ขูดหินปูน ค่าวิตามิน เป็นต้น ในแต่ละปีต้องของบประมาณเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ด้าน นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ กล่าวว่า สำหรับปัญหาสัตว์ป่าของกลางที่เป็นภาระของกรมอุทยานฯ ขณะนี้ได้มอบหมายให้กรมอุทยานฯ ไปดำเนินการแก้ไขคำจำกัดความคำว่า “ของกลาง” ใน พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า ซึ่งเวลานี้ยึดตาม พ.ร.บ.ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คือถ้าไม่พบตัวผู้กระทำผิด ต้องเก็บรักษาของกลางไว้และรอจนคดีสิ้นสุด 5 ปี ซึ่งทำให้เกิดปัญหามากโดยเฉพาะของกลางที่เป็นสัตว์ป่าสิ่งมีชีวิต หากสัตว์เหล่านี้ตายลงก็ต้องเก็บรักษาซากโดยการแช่เย็นไว้ ความเย็นไม่พอก็เน่าเสีย และมีขั้นตอนยุ่งยากในการขอพิสูจน์ทำลายซาก ถ้าสามารถแก้ไขคำจำกัดความของคำว่า “ของกลาง” สัตว์ป่าในบัญชีไซเตสได้ก็จะเป็นผลดี เพราะไม่ต้องรอจนคดีสิ้นสุด 5 ปี เมื่อพิสูจน์ที่มาได้แล้วให้ส่งกลับประเทศต้นทางได้ทันที จะทำให้ไม่เป็นภาระของประเทศไทยและเป็นภาพลักษณ์ที่ดีในเรื่องกฎหมายไซเตสด้วย

ขณะที่นายนิพนธ์ กล่าวว่า ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ และนายจอห์น อี สแกนนอน เลขาธิการไซเตส จะเข้าร่วมในพิธีทำลายงาช้างของกลางจำนวน 2,155 ก.ก. พร้อมกับมอบงาช้างของกลางกว่า 500 ก.ก. ให้กับหน่วยงานราชการเพื่อใช้ในการศึกษาวิจัย โดยพล.อ.ประยุทธ์ จะเป็นผู้นำงาช้างเข้าเครื่องบดทำลายด้วยตัวเอง เพื่อให้ประชาคมโลกได้เห็นว่าประเทศไทยมีความจริงใจในการแก้ปัญหาการการค้างาช้างที่ผิดกฎหมาย ซึ่งองค์กรต่างๆ ก็เห็นด้วยกับมาตรการที่เข้มข้นของประเทศไทยโดยเฉพาะกองทุนสัตว์ป่าโลก (WWF) ที่สนับสนุนให้ใช้มาตรการนี้มาโดยตลอด เพื่อให้แน่ใจได้ว่างาช้างจะไม่กลับเข้าสู่วงจรการค้าที่ผิดกฎหมายอีกต่อไป
ที่มา : ข่าวสด
Spread Widely / ข่าวอัพเดทปากต่อปาก / ไทยเตรียมส่ง “อุรังอุตัง” 14 ตัวคืนอินโดฯ หลังพบถูกสวนสัตว์ทิ้งข้างถนน
เปิดอ่าน 984
อ่านแล้วชอบ กด Like ใช่ กด Share
แม่นเวอร์! รู้ลึก รู้จริง ไขทุกปัญหา ดูดวงสดทางโทรศัพท์ 24 ชั่วโมง
โทร. 1900-111-119
(ค่าบริการ 15 บาท/นาที)
กดเมนู 2 ตามด้วย รหัสหมอดู (3 หลัก)
ดูดวงแบบส่วนตัว คุยสดกับหมอดูดัง
ถามตอบได้ทุกปัญหา ทั้งเรื่องความรัก เนื้อคู่ การงาน การเงิน โชคลาภ สุขภาพ
ข่าวอัพเดทปากต่อปาก
Copyright © 2008-2024 ThaiORC.com, by Phoenix Corporation, All rights reserved. Hosting by THAISITE.net